ข้อดีของประกันการเดินทาง

ข้อดีของประกันการเดินทาง

“ชีวิตก็เหมือนกับการเดินทาง” เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงเสียทีเดียวเลย เพราะชีวิตของคนคนนึงที่ได้ลืมตาดูโลกเติบโตพัฒนาตนเองและหาทางประสบความสำเร็จนับได้ว่าเป็นการเดินทางในรูปแบบหนึ่งที่มีหลากอารมณ์ แต่การได้หยุดพักผ่อนและออกเดินทางไปพบกับธรรมชาติหรือไปตามแหล่งท่องเที่ยวตามฝันของเรานั้น จะเป็นอะไรที่คงมีความสุขมากๆ อย่างแน่นอนครับ บทความนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ข้อดีการมีประกันการเดินทาง” และทำความรู้จักกับประกัน “ประกันการเดินทาง” ว่าเหมาะแก่การทำหรือไม่? กันครับ

ทำความรูจักกับประกัน

“ประกัน หรือ ประกันภัย (Insurance)” เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้ทำประกันภัยไว้ ด้วยการเฉลี่ยหรือการกระจายความเสียหายไปยังสมาชิกที่ทำประกันภัย โดยมีบริษัทประกันภัยเป็นผู้ทำหน้าที่เก็บเบี้ยประกันและชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในสัญญา

ทั้งนี้การทำประกันภัย เป็นการตกลงร่วมกันระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย คือ ผู้รับประกันภัย (บริษัทประกันภัย) กับผู้เอาประกันภัย (ลูกค้า) โดยมีการจัดทำข้อตกลงขึ้นในลักษณะของสัญญาประกันภัย หรือเรียกว่า “กรมธรรม์ประกันภัย” ซึ่งคู่สัญญาต่างมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อกันและกัน

โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัยอยู่ 3 ฝ่าย ได้แก่

ผู้รับประกันภัย (Insurer) เป็นบริษัทประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยจากภัยที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขในสัญญา

ผู้เอาประกันภัย (Insured) เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ มีหน้าที่ส่งเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัยจนครบกำหนดตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา

ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary) เป็นบุคคลที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ให้เป็นผู้ได้รับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งผู้รับผลประโยชน์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการของผู้เอาประกันภัย

ประกันการเดินทางเป็นอย่างไร?

การประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง คือ เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุ และผลของอุบัติเหตุนั้นส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยบาดเจ็บต้องได้รับการรักษาพยาบาล หรือสูญเสียอวัยวะ มือ เท้า และสายตา หรือเสียชีวิต แต่ทั้งนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลาระหว่างการเดินทางที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

การประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง ให้ความคุ้มครองคล้ายกับการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยให้ความคุ้มครองแบบ อบ. 1 คือ ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือได้รับบาดเจ็บต่อร่างกายต้องเข้ารักษาพยาบาล อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ และยังรวมถึงกรณีที่ผู้เอาประกันภัยถูกฆ่าหรือถูกทำร้ายร่างกายด้วย แต่คุ้มครองผู้เอาประกันภัยเฉพาะในระหว่างระยะเวลาการเดินทางเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทั้งในประเทศ และนอกประเทศไทยตามเส้นทางที่ระบุไว้ (ซึ่งจะคุ้มครองการเดินทางของผู้เอาประกันภัยแบบทั้งรายเดียวหรือรายกลุ่ม)      

การประกันภัยอุบัตืเหตุการเดินทางสำหรับธุรกิจเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตามกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว พ.ศ. 2556 ได้มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 และได้กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ต้องมีการทำประกันภัยอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยว ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 500,000 บาทต่อคน และต้องมีอายุกรมธรรม์ประกันภัยไม่น้อยกว่า 1 ปี นับแต่วันยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เพื่อใช้ในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว

ความจำเป็นในการซื้อประกันเดินทาง

เมื่อคุณเดินทางไปยังประเทศในแถบยุโรป โดยเฉพาะประเทศที่ต้องยื่นขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) คุณจำเป็นต้องมีประกันการเดินทางที่มีวงเงินประกันไม่น้อยกว่า 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท ซึ่งแต่ละประเทศยังมีการกำหนดรายชื่อบริษัทประกันที่สามารถนำมาใช้ยื่นวีซ่าเอาไว้ด้วย รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ที่ต้องใช้วีซ่าก็อาจมีการขอเรียกดูประกันภัยการเดินทางด้วยเช่นกัน ดังนั้นใครต้องการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มนี้ จำเป็นต้องทำประกันแน่นอน!

และนื้คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ประกันการเดินทาง” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ เราหวังว่าจะช่วยให้เข้าใจในการทำประกันการเดินทางมากชึ้นนะครับ

Cathy Fowler