สิ่งที่ต้องทำเมื่อลืมจ่ายค่าประกัน

สิ่งที่ต้องทำเมื่อลืมจ่ายค่าประกัน

เคยประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของความ “หลงลืม” กันบ้างมั้ยครับ ซึ่งหากเราไม่มีแจ้งเตือนหรือเกิดการลืมสิ่งที่ต้องทำประจำนั้น อาจเป็นไปได้ทุกเมื่อเลย ซึ่งการลืมในบางครั้งอาจก่อให้เกิดความศูนย์เสียในเวลาจำเป็นได้ด้วยเช่นเดียวกับการ “ลืมจ่ายค่าเบี้ยประกัน” วันนี้เราเลยจะมาแชร์เกี่ยวกับ “สิ่งที่ต้องทำเมื่อลืมจ่ายค่าประกัน” และผลที่ตามหลังลืมจ่ายกันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!

รู้จักกับ “เบี้ยประกัน”

เบี้ยประกันภัย คือจำนวนเงินที่บุคคล หรือ องค์กร ต้องจ่ายให้กับผู้รับประกันภัยตามรายละเอียดกรมธรรม์ โดยทั่วไปแล้ว เบี้ยประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันเพื่อรับความคุ้มครองต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้ และหากมีการผิดนัดชำระเบี้ยก็จะมีผลให้กรมธรรม์ถูกยกเลิก และไม่คุ้มครองอีกต่อไป

สิ่งที่ต้องทำเมื่อลืมจ่ายค่าประกัน

ต้องรีบชำระเบี้ยประกันในระยะเวลาผ่อนผัน ซึ่งผู้ซื้อประกันชีวิตหลายคนไม่ทราบข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ย 31 วันนับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดชำระเบี้ย ดังนั้น หากถึงกำหนดชำระแล้วยังมีเงินไม่เพียงพอ แต่จะสามารถหาเงินมาได้ครบจำนวนทันเวลาดังกล่าว การเลื่อนชำระตามกำหนดมาเป็นช่วงระยะเวลาผ่อนผันก็นับเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ดี ซึ่งในระหว่างระยะเวลาผ่อนผันกรมธรรม์ยังคงมีผลบังคับ และถ้าระหว่างนั้นเราเสียชีวิต บริษัทจะหักเบี้ยประกันที่ยังไม่ได้จ่ายออกจากทุนประกันชีวิต สิ่งสำคัญคือ ต้องระวังไม่ปล่อยให้พ้นระยะเวลาผ่อนผัน ถ้าเลยเวลาแล้ว แต่กรมธรรม์ยังมีมูลค่าเวนคืน (คือ เมื่อชำระเบี้ยประกันตั้งแต่ 2 หรือ 3 ปี ขึ้นไป กรมธรรม์จะมี “มูลค่าเวนคืน” เป็นจำนวนเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ในตารางมูลค่ากรมธรรม์ ซึ่งเราสามารถขอยกเลิกกรมธรรม์เพื่อรับเงินค่าเวนคืนจากบริษัทได้ แต่จะทำให้ความคุ้มครองทั้งหมดสิ้นสุดลง) บริษัทจะนำมูลค่าเวนคืนมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการไม่ชำระเบี้ยประกันของเรา เช่น เปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จหรือเป็นกรมธรรม์แบบขยายเวลาตามข้อ 5 หรือชำระเบี้ยอัตโนมัติตามข้อ 6 ที่จะกล่าวถึงต่อไป แต่ถ้ากรมธรรม์ไม่มีมูลค่าเวนคืน กรมธรรม์จะขาดอายุและสิ้นผลบังคับ

หากเกิดภาวะที่ไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้จะต้องทำอย่างไรบ้าง?

  • ขอเปลี่ยนงวดการชำระเบี้ยประกัน หากประเมินสถานการณ์แล้วว่า จะหาเงินก้อนมาชำระค่าเบี้ยรายปีไม่ทันระยะเวลาผ่อนผันตามข้อ 1 หรือเก็บเงินก้อนไม่สำเร็จ แต่ยังคงมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนจากชำระเงินคราวเดียวเป็นก้อนใหญ่รายปี (ราย 12 เดือน) มาเป็นแบ่งชำระทุกเดือน ทุก 3 เดือน หรือ 6 เดือน ก็อาจเป็นทางออกให้เรา แต่วิธีนี้มีข้อเสียคือค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายเมื่อรวมทุกงวดในรอบปีเดียวกันจะสูงกว่าการชำระเบี้ยเป็นรายปี ยิ่งแบ่งงวดการชำระมากเท่าไหร่ ค่าเบี้ยประกันโดยรวมจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงควรไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเปลี่ยนงวดการชำระเบี้ยประกันว่ายังมีวิธีที่จะหาเงินมาจ่ายเบี้ยให้ครบแบบรายปีได้อีกหรือไม่ ซึ่งในปีถัด ๆ ไปสามารถกลับมาจ่ายเบี้ยรายปีได้
  • ลดจำนวนเงินเอาประกันภัยลง หากมองไปในอนาคตแล้วเห็นว่าเบี้ยประกันที่จ่ายอยู่จะเป็นภาระที่มากเกินไปในระยะยาวหรือเห็นว่าจะชำระไม่ไหว การลดจำนวนเงินเอาประกันลงก็จะช่วยให้เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายลดลง โดยจำนวนเงินเอาประกันที่ขอลดต้องไม่ต่ำกว่าทุนประกันขั้นต่ำที่กำหนด และต้องไม่มีหนี้กับบริษัทประกันชีวิตนั้นขณะขอลดทุนประกัน
  • เปลี่ยนแบบกรมธรรม์ เราสามารถขอเปลี่ยนแบบประกันภัยเป็นแบบอื่นตามที่บริษัทกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไว้ หากมีระบุไว้ในกรมธรรม์หรือได้รับความเห็นชอบจากบริษัท และหากมีส่วนต่างของเบี้ยประกันหรือเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ บริษัทจะคืนเงินให้หลังหักด้วยหนี้สินที่มี หรือเก็บเงินเพิ่มแล้วแต่กรณี แต่ต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาก่อนว่าประกันแบบใหม่นั้นตรงตามความต้องการของตัวเองหรือไม่

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “สิ่งที่ต้องทำเมื่อลืมจ่ายค่าประกัน” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่าน คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านกันนะครับ

Cathy Fowler