ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ เบี้ยประกัน

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ เบี้ยประกัน

ว่ากันด้วยเรื่องของประกันภัยในปัจจุบันนั้น มีมากมายหลายแบบและหลายบริษัทให้เราได้เลือกสรรค์ตามความคุ้มครองที่เราต้องการ ซึ่งการมีประกันจะช่วยให้เราวางแผนได้เป็นอย่างดี พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ มากมายเลยหล่ะครับ วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ เบี้ยประกัน” ที่จะช่วยให้เข้าใจกับทุกๆ ท่านมากขึ้น เพื่อเป็นการไม่เสียงเวลาเราไปชมกันเล้ยย!!!

นิยามของประกันเป็นอย่างไร?

ประกัน คือ การตกลงร่วมกันระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย คือ ผู้รับประกันภัย (บริษัทประกันภัย) กับผู้เอาประกันภัย (ลูกค้า) โดยมีการจัดทำข้อตกลงขึ้นในลักษณะของสัญญาประกันภัย หรือเรียกว่า “กรมธรรม์ประกันภัย” ซึ่งคู่สัญญาต่างมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อกันและกัน ผู้รับประกันภัยมีหน้าที่คุ้มครองผู้เอาประกันภัย เมื่อเกิดการสูญเสียหรือมีความเสียหายเกิดขึ้นต้องชดเชยให้กับผู้เอาประกันภัยตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในสัญญา

เมื่อมีการตกลงทำประกันภัยแล้ว มีผู้เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัยอยู่ 3 ฝ่าย ได้แก่

  • ผู้รับประกันภัย (Insurer) เป็นบริษัทประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยจากภัยที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขในสัญญา
  • ผู้เอาประกันภัย (Insured) หรือผู้ถือกรมธรรม์ (Policy Holder) เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ มีหน้าที่ส่งเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัยจนครบกำหนดตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
  • ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary) เป็นบุคคลที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ให้เป็นผู้ได้รับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งผู้รับผลประโยชน์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการของผู้เอาประกันภัย

ความหมายของคำว่า “เบี้ยประกัน”

เบี้ยประกันภัย คือจำนวนเงินที่บุคคล หรือ องค์กร ต้องจ่ายให้กับผู้รับประกันภัยตามรายละเอียดกรมธรรม์ โดยทั่วไปแล้ว เบี้ยประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันเพื่อรับความคุ้มครองต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้ และหากมีการผิดนัดชำระเบี้ยก็จะมีผลให้กรมธรรม์ถูกยกเลิก และไม่คุ้มครองอีกต่อไป

ประกันภัยมีกี่ประเภท

ประกันภัยสามารถบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. การประกันภัยบุคคล (Insurance of the person)

การประกันภัยบุคคลเป็นการประกันภัยเกี่ยวกับภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือที่เกิดกับบุคคล ได้แก่

  1. การประกันชีวิต เป็นสัญญาระหว่างผู้ให้ประกัน ซึ่งมักเป็นบริษัทประกันชีวิต กับผู้เอาประกัน โดยผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยประกันให้ผู้รับประกัน หากผู้เอาประกันเกิดเสียชีวิตขณะที่กรมธรรม์มีผลบังคับภายในเงื่อนไขในกรมธรรม์ บริษัทประกันจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้รับผลประโยชน์เรียกว่าเงินสินไหม
  2. การประกันอุบัติเหตุ เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองต่อผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัย ประสบอุบัติเหตุได้รับความบาดเจ็บทางร่างกาย และหากผลของการบาดเจ็บนั้นส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล หรือรุนแรงถึงขั้นทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต
  3. การประกันสุขภาพ คือ การประกันภัยที่บริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยจากโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้แก่ผู้เอาประกันภัย

2. การประกันภัยทรัพย์สิน (Property Insurance)

การประกันภัยทรัพย์สินเป็นการประกันที่บริษัทผู้รับประกันภัยทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกัน ได้แก่เป็นการประกันที่บริษัทผู้รับประกันภัยทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกัน ได้แก่ การประกันอัคคีภัย, การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง, การประกันภัยรถยนต์, การประกันภัยเบ็ดเตล็ด

3. การประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมาย (Liability Insurance)

การประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมายเป็นการประกันภัยที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมาย ที่เกิดจากการประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย บุคคลในครอบครัว หรือลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทการประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมาย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “เบี้ยประกัน” ที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกๆ ท่านเพื่อเป็นความรู้ที่ดีกันนะครับ หวังว่าจะช่วยให้เข้าใจมากขึ้นครับ

Cathy Fowler