ถ้าหากเราจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างแล้วนั้น ย่อมต้องคิดและไตร่ตรองอย่างรอบคอบเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ก็ตาม ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอย่างดีนั้นก็คือ “การตัดสินใจซื้อประกัน” นั้นเองครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ข้อดีและข้อเสียของการทำประกันชั้นหนึ่ง” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!

ประกันรถยนต์มีอะไรบ้าง?

1. การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (Compulsory Third Party Insurance) หมายถึง การประกันภัยรถยนต์ที่กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถทุกคันมีหน้าที่ต้องจัดให้มีการประกันภัย ตามความคุ้มครองที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดไว้ คือ การประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่เรียกว่า “การประกันภัย พ.ร.บ.” (เว้นแต่ รถที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ระบุยกเว้นไว้ เช่น รถของสำนักพระราชวัง รถสำหรับเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ รถของกระทรวง ทบวง กรม เป็นต้น) ทั้งนี้ หากเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถไม่ทำประกันภัยตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนด จะมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ (ปรับไม่เกิน 10,000 บาท)

2. การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance) หมายถึง การประกันภัยที่เกิดขึ้นโดยความสมัครใจของเจ้าของรถยนต์ ผู้ครอบครองรถยนต์ หรือผู้ขับขี่รถยนต์ โดยไม่ได้เกิดจากการถูกบังคับโดยกฎหมายแต่อย่างใด เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถ หรือความรับผิดของผู้เอาประกันภัยที่มีต่อบุคคลภายนอก ซึ่งแบ่งความคุ้มครองได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าการประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น ๆ โดยมีความคุ้มครองหลักครบทั้ง 3 หมวด คือ หมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก หมวดการคุ้มครองรถยนต์สูญหายไฟไหม้และหมวดการคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์

การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2 เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แตกต่างกันเพียงไม่มีความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ โดยมีความคุ้มครองหลัก ได้แก่ หมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและหมวดการคุ้มครองรถยนต์สูญหายไฟไหม้

การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3 เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 และประเภท 2 โดยบริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกอันได้แก่… ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยและความเสียหายต่อทรัพย์สิน

การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 4 หรือ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก ให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น โดยคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 100,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง

การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 5 หรือ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองภัยเฉพาะ แบบประกัน 2 พลัส (2+) แบบประกัน 3 พลัส (3+) ซึ่งมีความหมายดังนี้

·แบบประกัน 2 พลัส (2+) ให้ความคุ้มครองรับผิดชอบต่อความเสียหายแบบประกันภัย ชั้น 2 แต่เพิ่มความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณี

·แบบประกัน 3 พลัส (3+) ให้ความคุ้มครองรับผิดชอบต่อความเสียหายแบบประกันภัย ชั้น 3 แต่เพิ่มความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณี

ข้อดีและข้อเสียของการทำประกันชั้นหนึ่งมีอะไรบ้าง

ข้อดีของการทำประกันชั้นหนึ่ง คือ ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองครอบคลุมทุกด้าน จนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายชดเชยเมื่อเกิดเหตุต่างๆ

ข้อเสียของการทำประกันชั้นหนึ่ง หลักๆ แล้วก็ต้องเสียค่าเบี้ยประกันในราคาที่สูง ตามความคุ้มครองที่มากขึ้นนั้นเองครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ “ข้อดีและข้อเสียของการทำประกันชั้นหนึ่ง” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านกันในบทความนี้ หวังว่าจะชอบและเป็นประโยชน์กันนะครับ